: ข่าวด่วน ทันเหตุการณ์ เศรษฐกิจ การลงทุน หุ้น อสังหาริมทรัพย์ ไอที-เทคโนฯ รถยนต์ ท่องเที่ยว ต่างประเทศ รวดเร็วสดใหม่ทุกวัน 
AMATA รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ปี 2567 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไตรมาส 2 ปี 2567 มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 983 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 615 ล้าน หรือร้อยละ 167.12 จากงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยมีการโอนที่ดินรวมทั้งสิ้นจำนวน 162 ไร่ (ไทย: 128 ไร่ เวียตนาม 34 ไร่) ซึ่งในไตรมาส 2 ปี 2566 ที่มีการโอนที่ดินจำนวน 85 ไร่ (ไทย: 72 ไร่ และเวียดนาม 13 อัตรากำไรขั้นต้นจากการขายอสังหาริมทรัพย์อยู่ที่ร้อยละ 43.03 ในไตรมาส 2 ปี 2567 ลดลงจากร้อยละ 45 สาเหตุหลักเนื่องจากมีต้นทุนค่าที่ดินที่สูงขึ้น
นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการ บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน AMATA รายได้ค่าบริการสาธารณูปโภคของบริษัทฯ ไตรมาส 2 ปี 2567 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,424 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำน 572 ล้านบาท หรือร้อยละ 67.14 จากงวดเดียวกันของปี 2566 เนื่องจากมีการให้บริการสาธารณูปโภคเพิ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนิคมอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนาม อย่างไรก็ตาม กำไรขั้นต้นปรับลดลงจากร้อยละ 20 มาอยู่ที่ร้อยละ 15.87 เนื่องจากต้นทุนและราคาของการให้บริการสาธารณูปโภคในประเทศเวียดนามบางประเภท ถูกกำหนดจากทางภาครัฐ และการให้บริการสาธารณูปโภคในประเทศไทยมีต้นทุนสูงขึ้น
ธุรกิจโรงงานให้เช่าสำเร็จรูป/พื้นที่ให้เช่า บริษัทฯ มีรายได้จากการให้เช่าจำนวน 240 ล้านบาทในไตรมาส 2 ปี 2567 เพิ่มขึ้นจำนวน 46 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 23.71 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากจำนวนพื้นที่โรงงานสำเร็จรูปให้เช่าใน ประเทศไทย อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 77.08 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 73.71
ธุรกิจพัฒนาที่ดินนิคมอุตสาหกรรม ในงวดหกเดือนแรกของปี 2567 (1H/2567) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 2,038 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น 486 ล้านบาท หรือร้อยละ 31.31 จากงวดเดียวกันของปีก่อน (1H/25667) ใน 1H/256/ มีการโอน ที่ดินมากกว่าปีก่อน โดยมีการโอนที่ดินรวมทั้งสิ้นจำนวน 314 ไร่ (ไทย: 257 ไร่ และเวียตนาม 57 ไร่)
ขณะที่ 1H/2566 มีการโอนที่ดินจำนวน 213 ไร่ (ไทย: 200 ไร่ และเวียตนาม 13 ไร่) แต่ในงวด 1H/2567 มีการโอนที่ดินใน นิคมอุตสาหกรรมจังหวัดระยองซึ่งมีราคาและอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่า เมื่อเทียบกับการโอนที่ดินในจังหวัดชลบุรี โดยอัตรากำไรขั้นต้นในงวด 1H/2567 อยู่ที่ร้อยละ 48.72 ปรับตัวลดลงจากงวด 1H/2566 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ ที่ร้อยละ 63.14
ธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภค รายได้ค่าบริการสาธารณูปโภคของบริษัทฯ สำหรับงวด 1H/2567 จำนวน 2,846 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,238 ล้านบาท หรือร้อยละ 76.99 จากในงวด 1H/2566 เพราะในปี 2567 บริษัทฯ มีรับรู้รายได้จากการให้บริการ สาธารณูปโภคเพิ่มเติมจากนิคมอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนาม
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลดลงจากร้อยละ 22.70 ในงวด 1H/2566 เป็นร้อยละ 16.44 ในงวด 1H/2567 เนื่องจากการให้บริการดังกล่าวมีการกำหนดราคา ต้นทุนและราคาขายจากทางรัฐบาลเวียดนาม จึงทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นดังกล่าวได้
ธุรกิจโรงงานให้เช่าสำเร็จรูป บริษัทฯ มีรายได้จากการให้เช่าจำนวน 463 ล้านบาทในงวด 1H/2567 เพิ่มขึ้นจำนวน 69 ล้านบาท หรือร้อยละ 17.51 เมื่อเปรียบเทียบกับในงวด 1H/2566 โดยอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 77.11 ในงวด 1H/2567
ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า บริษัทฯ มีกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าในไตรมาส 2 ปี 2567 จำนวน 258 ล้านบาท ลดลง 47 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.41 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2566 เนื่องจากกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้ามีการปิดซ่อม บำรุงบางส่วนตามแผนงาน
กำไรสุทธิของไตรมาส 2 ปี 2567 จำนวน 404 ล้านบาท ลดลงจำนวน 16 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.81 จาก ไตรมาส 2 ปี 2566 สาเหตุหลักเนื่องจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าลดลง และค่าใช้จ่ายทางภาษีที่เพิ่มขึ้น
- ส่วนงวด 6 เดือนแรก รายได้รวมจำนวน 5,451 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 50,00 มีกำไรสุทธิ 1,038 ล้านบาท ลดลง 13 ล้านบาท
- ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้า จำนวน 415 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.33
ที่ประชุมคณะกรรมการอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล อัตรา 0.25 บาท/หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้สิทธิรับเงินปันผล (XD) วันที่ 26 ส.ค.67 และกำหนดจ่าย วันที่ 13 ก.ย.67
More Articles
