หมวดหมู่: พาณิชย์

1aaa กีรติ รัชโน


ใช้ FTA ส่งออก 8 เดือน 4.5 หมื่นล้านเหรียญ “พาณิชย์”ทำแผนกระตุ้นผู้ประกอบการใช้สิทธิเพิ่ม

      กรมการค้าต่างประเทศเผยการใช้สิทธิ FTA ส่งออก 8 เดือนปี 62 มีมูลค่า 4.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 3.30% ตามการส่งออกภาพรวมที่ลดลง เหตุได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าที่ยังไม่ชัดเจน เศรษฐกิจคู่ค้าชะลอตัว และเงินบาทแข็งค่า ระบุอาเซียนยังคงเป็นแชมป์ใช้สิทธิสูงสุด ตามด้วยจีน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่นและอินเดีย เตรียมลุยผลักดันใช้สิทธิปี 63 ให้เพิ่มมากขึ้น เน้นให้ความรู้เจาะถึงตัวผู้ประกอบการ และผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม

      นายกีรติ รัชโน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) ในช่วง 8 เดือนของปี 2562 (ม.ค.-ส.ค.) มีมูลค่า 45,175.32 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 78.94% ของการส่งออกรวมในรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางการค้าที่มีมูลค่า 57,230.54 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาลดลง 3.30% ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการส่งออกของไทยที่ ลดลง 2.20% เนื่องจากการส่งออกไปยังบางตลาดยังคงลดลงสะสม โดยเป็นผลมาจากปัจจัยสำคัญ คือ ปัจจัยด้านสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ที่ยังมีแนวโน้มยืดเยื้อจากการเจรจาที่ยังไม่สำเร็จ ภาวะเศรษฐกิจของคู่ค้าชะลอตัว และค่าเงินบาทที่ยังคงปรับตัวแข็งค่าขึ้น

     ทั้งนี้ ตลาดส่งออกที่ไทยมีมูลค่าการใช้สิทธิ FTA สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.อาเซียน มูลค่า 16,579.17 ล้านเหรียญสหรัฐ 2.จีน มูลค่า 12,574.86 ล้านเหรียญสหรัฐ 3.ออสเตรเลีย มูลค่า 5,391.06 ล้านเหรียญสหรัฐ 4.ญี่ปุ่น มูลค่า 5,102.13 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 5.อินเดีย มูลค่า 3,019.03 ล้านเหรียญสหรัฐ

    สำหรับ ตลาดที่มีการใช้สิทธิ FTA ลดลง ได้แก่ 1.อาเซียน ลดลง 7.14% สินค้าที่ลดลง เช่น เครื่องดื่มประเภทอื่นๆ ที่ไม่เติมแก๊ส ฝรั่ง มะม่วง และมังคุด น้ำตาลที่ได้จากอ้อยอื่นๆ 2.ออสเตรเลีย ลดลง 13.89% สินค้าที่ลด เช่น รถยนต์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ปลาทูน่าปรุงแต่ง 3.ชิลี ลดลง 31.05% สินค้าที่ลด เช่น รถบรรทุก (ดีเซล หรือกึ่งดีเซล) ปลาทูน่า เครื่องซักผ้า และเกาหลี ลดลง 2.75% สินค้าที่ลด เช่น เศษอะลูมิเนียม แผ่นไม้อัด พาร์ติเคิลบอร์ด และยางธรรมชาติ แต่ตลาดเปรู นิวซีแลนด์ จีน มีการใช้สิทธิขยายตัวสูง 22.42% , 7.88% และ 5.78%

      นายกีรติ กล่าวว่า ในปี 2563 กรมฯ มีแผนที่จะส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าในการส่งออกอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างแต้มต่อและเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการของไทย โดยมีกำหนดจัดสัมมนาให้ความรู้ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดที่มีการออกหนังสือรับรอง เช่น หนองคาย เชียงราย สงขลา เป็นต้น ซึ่งจะมุ่งเน้นการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจสำหรับผู้ประกอบการในเรื่องการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า ตั้งแต่เรื่องกฎถิ่นกำเนิดสินค้าและระเบียบปฏิบัติในการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าภายใต้ความตกลง FTA การตรวจรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า และระบบการให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าของกรมฯ

     ขณะเดียวกัน มีแผนจะบูรณาการร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยจัดกิจกรรมคลินิกเคลื่อนที่ไปให้คำปรึกษาด้านสิทธิประโยชน์และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมายในนิคมอุตสาหกรรมทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิประโยชน์ทางการค้าที่เกี่ยวข้องกับกฎถิ่นกำเนิดสินค้า

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

ais 790x90GC 790x90

sme 720x90banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!