หมวดหมู่: การศึกษา

09309 Mitsu


 

‘MITSUBISHI ELECTRIC’ จัด Science Classroom ปีที่ 4 
จุดประกายเด็กไทย–เปิดมิติใหม่การเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์

          ในยุคที่ทุกสิ่งทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เข้ามาเป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ล้วนแล้วแต่มีรากฐานจากหลักการทางวิทยาศาสตร์ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีที่ต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

          เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด ร่วมกับ มูลนิธิมิตซูบิชิ อิเล็คทริคไทย นำทีมผู้บริหารและพนักงาน จัดกิจกรรม “ห้องเรียนวิทยาศาสตร์” (Science Classroom) เพื่อเปิดโอกาสในการต่อยอดความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ ผ่านการเรียนรู้นอกห้องเรียนด้วยการทดลองอย่างสนุกสนาน ซึ่งกิจกรรมใน Science Classroom ครั้งนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยจะหมุนเวียนไปยังกลุ่มบริษัท MITSUBISHI ELECTRIC และในปีนี้มีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 135 คน จากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง ฝ่ายประถม เข้าร่วมกิจกรรม ในหัวข้อ “การถ่ายเทความร้อน” โดยมีทีมวิศวกรมืออาชีพเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ที่มาจากประสบการณ์โดยตรง เน้นให้เด็กๆ ได้ทดลองและปฏิบัติจริง พร้อมนำชม AI Gallery เทคโนโลยีสุดล้ำของกลุ่มบริษัท MITSUBISHI ELECTRIC อย่างสนุกสนานพร้อมสอดแทรกความรู้ต่างๆ ที่เข้าใจง่ายและเห็นภาพได้อย่างชัดเจน

          มร.ยาซุชิ โมริยามะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด กล่าวว่า กลุ่มบริษัท MITSUBISHI ELECTRIC มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคม และสอดคล้องกับ พันธกิจของกลุ่มบริษัท Mitsubishi Electric คือ การพัฒนาเทคโนโลยี การให้บริการ และพลังแห่งการสร้างสรรค์ เพื่อนำไปสู่สังคมที่มีศักยภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีตามถ้อยแถลงองค์กร “เปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า (Changes for the Better)” เราปลูกฝังและส่งเสริมให้เด็กไทยมีความคิดสร้างสรรค์ และที่สำคัญกิจกรรมนี้ยังเป็นการสร้างพื้นฐานให้เด็กสนใจที่จะเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การบ่มเพาะเด็กและเยาวชนให้เติบโตขึ้นเป็นบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เป็นการจุดประกายการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีและต่อยอดสู่นวัตกรรมต่อไป

          “เยาวชนในวันนี้คือ ผู้ที่จะสืบทอดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปสู่โลกในทศวรรษหน้า ดังนั้นน้องๆ จะต้องพัฒนาใน 3 ด้านหลักๆ นั่นก็คือ จะต้องรู้จักสังเกตและเรียนรู้จากสิ่งรอบตัว เริ่มต้นจากการตั้งคำถาม และค้นหาคำตอบ สุดท้ายก็คือ เราจะต้องมีความฝัน และมีความคิดที่สร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา เพราะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคือหัวใจสำคัญที่จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคต” มร.โมริยามะ กล่าว

          บรรยากาศในการจัดกิจกรรม Science Classroom เต็มไปด้วยความตื่นเต้น สนุกสนาน และความรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น การทดลองเรื่องการถ่ายเทความร้อนของวัสดุประเภทต่างๆ รวมถึงการเข้าชมเทคโนโลยีและนวัตกรรมสุดล้ำของกลุ่มบริษัท MITSUBISHI ELECTRIC อย่างใกล้ชิด อาทิ เครื่องปรับอากาศมิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิมที่มาพร้อมเทคโนโลยี 3D Move–Eye Human Sensor เซ็นเซอร์อัจฉริยะที่ช่วยตรวจจับอุณหภูมิและการเคลื่อนไหวและสามารถส่งลมเย็นได้อย่างตรงจุด ตู้เย็นที่ประหยัดพลังงานด้วยระบบ Neuro Inverter พร้อมเทคโนโลยีคงความสด Vitamin Factory เพื่อรักษาคุณค่าวิตามินในผักใบเขียว ในช่องแช่ผัก และเทคโนโลยี Supercool Chilling Case ในช่องเก็บเนื้อสัตว์ด้วยระดับความเย็นเฉียบ 0 ถึง –3 องศา พร้อมปรุงอาหารได้ทันทีโดยไม่เสียเวลาทำละลาย รวมถึงเครื่องเป่ามือพลังลมความเร็วสูงรายแรกของโลกที่ช่วยลดการใช้กระดาษเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม

          สนุกสนานแค่ไหนนั้น ยืนยันได้จากแววตาและสีหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มของ เด็กชายณัฏฐกิตติ์ ศิวะสัตยานนท์ หรือ น้องนะโม เล่าความฝันในอนาคตให้ฟังว่า “โตขึ้นผมอยากเป็นนักธรณีวิทยา จึงต้องขยันและตั้งใจเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นวิชาที่เน้นการทดลอง และการท่องจำ อย่างเช่นในวันนี้พวกเราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการถ่ายเทความร้อนง่ายๆ ด้วยวิธีการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทั้งเรื่องการนำความร้อนผ่านโลหะชนิดต่างๆ การแผ่ความร้อนของอุณหภูมิในร่างกายมนุษย์ผ่านฮีทไปป์ จนสามารถตัดน้ำแข็งออกเป็น 2 ส่วน ความดันอากาศเปลี่ยนทำให้อุณหภูมิจุดเดือดเปลี่ยน ได้เห็นการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการผลิตเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น ปั๊มน้ำ และอื่นๆ อย่างที่จัดแสดงอยู่ในห้อง AI Gallery ซึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชิ้นมีความพิเศษและแตกต่างกันออกไป หลายอย่างผมเคยเห็นมาบ้างแล้ว และก็มีอีกหลายอย่างที่เพิ่งได้มาเห็นที่นี่ ซึ่งผมคิดว่าถ้าประเทศไทยเรามีคนเก่งด้านวิทยาศาสตร์เยอะๆ จะต้องมีการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ มาช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ได้อีกเยอะเลย ในอนาคตเราอาจจะมีรถบินได้ มีหุ่นยนต์ผู้ช่วยพยาบาล หุ่นยนต์เพื่อการเกษตร และเครื่องจักรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมขึ้นได้ครับ”

          ทางด้าน เด็กหญิงชัชชญา ทรัพย์โภคา หรือ น้องอิงอิง เล่าเสริมว่า “กิจกรรมห้องเรียนวิทยาศาสตร์ทำให้หนูได้รับความรู้ใหม่ๆ โดยมีพี่ๆ พาเดินชมเทคโนโลยีต่างๆ แล้วเล่ารายละเอียดให้ฟังว่าแต่ละอย่างคืออะไร ทำให้ได้รู้ว่าแต่ละเทคโนโลยี มีระบบการทำงานอย่างไร พัฒนามาเพื่อใช้ประโยชน์ในเรื่องใด และแต่ละเทคโนโลยีนำไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านของเราอย่างไรบ้าง ทำให้พวกหนูได้รับความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อน เช่น พัดลมที่สามารถเชื่อมต่อกับบลูทูธแล้วสั่งการจากที่ไกลๆ ได้ 
ตู้เย็น แอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เราใช้ในชีวิตประจำวันอีกมากมาย นอกจากนี้ ยังได้ร่วมทดลองกิจกรรมกับเพื่อนๆ เกี่ยวกับการถ่ายเทความร้อนของวัสดุต่างๆ ความฝันของหนูคืออยากเป็นคุณหมอ หนูชอบเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และจะตั้งใจเรียนและหาความรู้เพิ่มเติมนอกห้องเรียนให้มากขึ้น เพราะหนูคิดว่าความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ จะสามารถนำมาช่วยพัฒนาการตรวจรักษาคนไข้ได้ดียิ่งขึ้นค่ะ”

          ปิดท้ายกันที่ เด็กหญิงณิชกานต์ งามสมบัติ หรือ น้องอลิซ เล่าเพิ่มเติมว่า “ขอบคุณกลุ่มบริษัท MITSUBISHI ELECTRIC มากค่ะ ที่เปิดโอกาสให้หนูได้ร่วมกิจกรรมในวันนี้ ทำให้หนูได้รับความรู้ และสนุกมากๆ ได้ร่วมทดลองในเรื่องการถ่ายเทความร้อน ทำให้เรารู้ว่าวัสดุแต่ละประเภทมีความสามารถในการถ่ายเทความร้อนไม่เท่ากัน จนทำให้เกิดการพัฒนาและนำเอาหลักการดังกล่าวมาประดิษฐ์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ที่ใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวัน หรือแม้กระทั่งยานอวกาศ ทำให้หนูคิดว่าการที่นักวิทยาศาสตร์จะสามารถคิดค้นสิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้ต้องมาจากการสังเกตสิ่งรอบตัว นำมาวิจัยและทดลอง ซึ่งต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมาก พี่ๆ วิศวกรบอกว่า พวกหนูและเพื่อนเป็นความหวังของอนาคตในการสร้างและเปลี่ยนแปลงให้เทคโนโลยีมีการพัฒนาก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ต่อไปนี้หนูจะตั้งใจเรียนให้มากขึ้น โดยเฉพาะวิชาวิทยาศาสตร์ค่ะ”

          การเรียนรู้อย่างสนุกสนานของน้องๆ เยาวชนในกิจกรรม “Science Classroom” จากความมุ่งมั่นและตั้งใจของกลุ่มบริษัท MITSUBISHI ELECTRIC ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัว จุดประกายให้เด็กไทยสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ พัฒนาต่อยอดความรู้ และพร้อมที่จะเป็นพลังสำคัญในขับเคลื่อนประเทศชาติให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

 


AO09309

Click Donate Support Web

ais 790x90

GC 950x120

sme 720x90

banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!