หมวดหมู่: บทวิเคราะห์

May


บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open

กลยุทธ์การลงทุนรายวัน

Market Summary
          เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET แกว่งแคบ แดนบวกสลับลบ มีแรงซื้อกลับกลุ่ม ICT (ADVANC, INTUCH, DTAC) โดย กลุ่ม BANK ย่อเล็กน้อย โดย ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,661.96 (+1.3 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.3 หมื่นล้านบาท (เทียบกับวันก่อนหน้าที่ 7.0 หมื่นล้านบาท)
          โดยนักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 400 ล้านบาท (นักลงทุนสถาบันขาย 1,226 ล้านบาท) ส่วนตลาด TFEX นักลงทุนต่างชาติเปิด Long Futures ที่ 17,716 สัญญา

Stock Picks & Trading Idea
          PTTEP (ราคาเป้าหมาย 159 บ/หุ้น) คาดรับอานิสงส์บวกจากแนวโน้มราคาน้ำมันดิบโลกแกว่งขึ้น ตอบรับความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ปรับตัวสูงขึ้น (Geopolitical risk) หลังจากโรงน้ำมันขนาดใหญ่ของ Saudi Aramco ถูกโดรนโจมตีในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

Investment Theme
          ราคาน้ำมันดิบโลกแกว่งขึ้นหนุนกลุ่มพลังงานต้นน้ำฟื้นตัว: สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทั่วโลกจับจ้องไปที่ประเด็นข่าว โดรนเข้าโจมตีโรงน้ำมัน (oil Facility) ของ Saudi Aramco (Abqaiq และ Hijra Khurais) ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยเบื้องต้นประเมินผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบครึ่งหนึ่งของกำลังผลิตของซาอุดิอารเบีย หรือราว 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน คิดเป็น 5% ของความต้องการใช้น้ำมันโลก โดยหลังจากเกิดเหตุดังกล่าว ทางด้านกลุ่มกบฎฮูติในเยเมน ได้ออกมาบอกว่าเป็นการกระทำของตน ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นปัจจัยที่สะท้อนถึงความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ปรับตัวสูงขึ้น คาดจะส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวขึ้นแรงในระยะสั้น โดยคงต้องจับตาว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะคลี่คลายได้เร็วเพียงใด โดยสรุปถือเป็นจิตวิทยาบวกโดยตรงต่อกำไรของกลุ่มพลังงานต้นน้ำ เช่น PTTEP, PTT รวมถึง PTTGC ที่ได้แรงหนุนจากราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวขึ้น ส่วนประเด็นสำคัญสัปดาห์นี้แนะติดตามการประชุมธนาคารกลางต่างๆ นำโดย ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) วันที่ 17-18 กันยายน, ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) 18-19 กันยายน และธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) 19 กันยายนนี้
          Investment Strategy: สัปดาห์นี้คาด SET แกว่งขึ้น กรอบ  1650-1700 จุด โดยกรอบวันนี้คาดดีดขึ้น แนวต้าน 1680 และ แนวรับ 1650 แนะนักลงทุนระยะสั้นใช้เม็ดเงิน 20% เก็งกำไรกลุ่มที่คาดได้อานิสงส์บวกจากซาอุฯ ลดกำลังผลิต (PTTEP, PTT) ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว: รอขายทำกำไรในจังหวะ SETปรับขึ้นใกล้ 1700 จุด หุ้นที่รอจังหวะสะสมระยะกลาง (BDMS, CHG, SCB, GPSC, BEM, AOT, ADVANC, STEC, SCC)

Big Issue

เมื่อคืนที่ผ่านมา :  
          - แหล่งผลิตน้ำมันขนาดใหญ่ของ Saudi Aramco โดนโจมตีจากโดรน กดดันให้อุปทานช่วงสั้นอาจลดลงราว 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน
          - ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เดือน สค. เพิ่มขึ้น 0.4% ดีกว่าที่ตลาดคาด ที่ +0.2%

Eyes on

ปัจจัยต่างประเทศ :
          - 17-18 กย. FOMC Meeting (คาดลดดอกเบี้ย)
          - 18-19 กย. การประชุม BOJ
          - 19 กย. การประชุม BOE
          - เจรจาสงครามการค้า US-จีน ต้นเดือน ตค.

ปัจจัยในประเทศ :
          - 25 กย. การประชุม กนง. (คาดคงดอกเบี้ย)

Technical View

SET
          แนวรับ : 1645, 1655
          แนวต้าน : 1680, 1695
          SET Index : ผ่าน 1680 ได้ จะเป็นการ Break กรอบ Sideway ในระยะสั้น ดัชนีแกว่งออกข้างบริเวณเส้น EMA200วัน โดยระหว่างวันยังมีแรงซื้อกลับจากกลุ่มสื่อสาร พลังงาน และก่อสร้าง ทำให้เกิดเป็นแท่งเทียนมีหาง ระยะสั้นคาดได้รับ Sentiment บวกจากราคาน้ำมัน Brent ที่ +10% กว่า โดยมองแนวต้านที่ 1680 หากผ่านได้จะเป็นการ Break กรอบ Sideway ระยะสั้น และปรับตัวขึ้นต่อตามกรอบ Uptrend

กลยุทธ์การลงทุน
          มีหุ้น: หากเปิดโดดแรงทดสอบแนวต้าน 1680+/- อาจทยอยขายทำกำไรระยะสั้น แล้วพิจารณาซื้อเมื่อ่อนตัวอีกครั้ง
          ไม่มีหุ้น: จังหวะย่อตัวระหว่างวันทยอยสะสมที่แนวรับ

Tiger Picks :

          STEC: ซื้อ
          แนวรับ : 19.80-20.20
          แนวต้าน : 20.70/21.40
          ตัดขาดทุน : 19.60

          ORI: ซื้อ
          แนวรับ : 8.00-8.20
          แนวต้าน : 8.55/8.80
          ตัดขาดทุน : 7.90

ข่าว เด่น พร้อมคำแนะนำ

CK
          แบ็กล็อกฟื้นสู่แสนล้านจ่อเซ็นงานยักษ์ปีนี้เพียบ (ทันหุ้น)
          ความเห็น : งานในมือปัจจุบันของ CK ต่ำ รองรับรายได้เพียง 2 ปี  ทำให้กำไรปีนี้ และปีหน้าจะไม่เด่น  โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาลมีความล่าช้า  งานที่คาดจะได้ในอนาคต คือ รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน 5-7 หมื่นล้านบาท  และ โครงการก่อสร้างทางด่วนสองชั้น 3 หมื่นกว่าล้านบาท จะช่วยเติม Backlog ในปี 2563  CK มีจุดเด่นที่เป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ และมีเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำของประเทศ คือ BEM, CKP และ TTW  แนะนำ TRADING BUY เป้าหมาย 31 บาท

CPALL
          7-11 ปั้นสมาร์ทรีเทลย้ำแชมป์ ผนึก 24 ช้อปปิ้ง (ประชาชาติธุรกิจ)
          ความเห็น : ยังเน้นการขยายสาขาไม่ต่ำกว่า 700 สาขาต่อปี โดยมีเป้าหมายครบ 13,000 สาขาในปี 2564 ซึ่งเราเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ ขณะที่มีการต่อยอดไปยังธุรกิจออนไลน์รองรับการเติบโตของ E-commerce โดยใช้จุดแข็งจากการมีสาขาจำนวนมากและระบบ Logistic ที่แข็งแกร่ง แนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมาย 92 บาท

          นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ
          Research Department Tel. 02-658-5000

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!