หมวดหมู่: บริษัทจดทะเบียน

TRIS7 22


ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 'บ.ทางยกระดับดอนเมือง' ที่'BBB+' แนวโน้ม 'Stable'

     ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ BBB+’ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต Stable’ หรือ ‘คงที่’ อันดับเครดิตสะท้อนถึงการที่บริษัทมีทางยกระดับที่อยู่ในทำเลที่เป็นยุทธศาสตร์ที่ดี รวมทั้งการมีกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอและภาระหนี้ที่อยู่ในระดับต่ำ อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากการที่บริษัทต้องพึ่งพิงสินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสดเพียงสิ่งเดียวคือทางยกระดับและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความถูกต้องตามกฎหมายของการแก้ไขสัญญาสัมปทานของบริษัทครั้งหลังสุดซึ่งต้องรอคำพิพากษาจากศาลปกครองสูงสุด

 

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

มีทำเลทางยกระดับที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีและมีรายได้ที่สม่ำเสมอ

      ทางยกระดับของบริษัทเป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมการเดินทางระหว่างใจกลางกรุงเทพฯ กับสนามบินนานาชาติดอนเมือง อีกทั้งยังเป็นเส้นทางหลักที่เปิดออกสู่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้วย

    ปริมาณการจราจรบนทางยกระดับของบริษัทเติบโตอย่างสม่ำเสมอ โดยในช่วงปี 2556-2561 ปริมาณจราจรเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 4.6% อย่างไรก็ตาม ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 ปริมาณจราจรลดลง 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเนื่องจากความต้องการใช้ทางที่ลดลงจากการปรับปรุงถนนบริเวณใกล้เคียงกับถนนวิภาวดีรังสิตและการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีแดงและสายสีเขียวส่วนเหนือแล้วเสร็จ

      ทริสเรทติ้ง คาดว่าปริมาณจราจรบนทางยกระดับจะลดลงประมาณ 5%-7% ต่อปีในช่วงปี 2562 และปี 2563 หลังจากนั้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 2% ในปี 2564 อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราค่าผ่านทางที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมากน่าจะช่วยลดผลกระทบจากการลดลงของปริมาณจราจรบนทางยกระดับได้ ซึ่งทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทจะลดลงประมาณ 5% ในปี 2562 และจะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 6% ในปี 2563 และ 2% ในปี 2564 ตามลำดับ

 

ความเสี่ยงด้านกฎหมายยังคงเป็นข้อจำกัดสำหรับอันดับเครดิต

    ความถูกต้องทางกฎหมายในการแก้ไขสัญญาสัมปทานของบริษัทครั้งหลังสุดยังคงเป็นประเด็นหลักที่เป็นข้อจำกัดต่ออันดับเครดิต กรณีเลวร้ายที่สุดอาจเกิดขึ้นได้หากคำพิพากษาเป็นคุณต่อโจทก์ซึ่งอาจส่งผลให้อายุสัญญาสัมปทานสิ้นสุดในปี 2564 แทนที่จะเป็นปี 2577

    การแก้ไขสัญญาสัมปทานของบริษัทครั้งหลังสุดดำเนินการเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2550 ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2549 และวันที่ 10 เมษายน 2550 โดยได้มีการชดเชยความเสียหายอันเป็นผลมาจากการกระทำของภาครัฐภายใต้รัฐบาลในอดีตให้แก่บริษัทซึ่งต่างไปจากที่ได้ตกลงไว้ในสัญญาสัมปทาน เงื่อนไขที่เป็นประเด็นสำคัญในสัญญาสัมปทานที่มีการปรับปรุง ได้แก่ การขยายอายุสัญญาสัมปทานเพิ่มจากเดิมที่จะสิ้นสุดในปี 2564 ไปเป็นปี 2577 และการกำหนดอัตราการเพิ่มค่าผ่านทางไว้ล่วงหน้าตามการแก้ไขสัญญาในครั้งก่อน

       บริษัทมีกรณีที่ถูกฟ้องร้องต่อศาลปกครองจำนวน 3 คดีซึ่งเกี่ยวเนื่องกับความถูกต้องทางกฎหมายของการแก้ไขสัญญาสัมปทานครั้งหลังสุด ทั้งนี้ ภายหลังจากการดำเนินกระบวนการทางศาลเป็นเวลาหลายปี ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษายกฟ้อง 2 คดีจากทั้งสิ้น 3 คดี ส่วนคดีที่ยังอยู่ในกระบวนการทางศาลนั้น โจทก์อ้างว่ามติคณะรัฐมนตรีซึ่งมีมติเห็นชอบการแก้ไขสัญญาสัมปทานครั้งหลังสุดนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลังจากนั้นในปี 2558 ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีในการแก้ไขสัญญาสัมปทานครั้งหลังสุดดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของบริษัทยังคงมั่นใจว่าผลของคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดจะออกมาในทางบวก

 

การพึ่งพิงแหล่งรายได้เพียงแหล่งเดียว

     บริษัทดำเนินกิจการทางยกระดับเพียงเส้นทางเดียว ดังนั้น ปริมาณจราจรจึงได้รับผลกระทบได้ง่ายเมื่อต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ปริมาณจราจรบนทางยกระดับของบริษัทลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากวิกฤตการณ์ทางการเงินปี 2540 จากการย้ายสนามบินนานาชาติของกรุงเทพฯ จากดอนเมืองไปเป็นสุวรรณภูมิ หรือจากการเปิดให้บริการทางด่วนที่เป็นเส้นทางคู่แข่ง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ปริมาณจราจรบนทางยกระดับของบริษัทก็ฟื้นตัวกลับมาทุกครั้งหลังจากเหตุการณ์เหล่านั้นผ่านพ้นไปและเติบโตอย่างสม่ำเสมอมาตั้งแต่ปี 2554 ในอนาคตข้างหน้า ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์ที่มีนัยสำคัญใดใดเกิดขึ้นที่จะส่งผลให้ปริมาณจราจรบนทางยกระดับของบริษัทลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงประมาณการ

แผนในการชำระหนี้สินทางการเงินที่มีอยู่ทั้งหมดภายในปี 2564

               บริษัทมีแผนการจะชำระหนี้สินทางการเงินที่มีทั้งหมดให้ได้ภายในปี 2564 เนื่องจากความไม่แน่นอนของคำพิพากษาของศาล ทั้งนี้ ณ เดือนมิถุนายน 2562 บริษัทมีหนี้คงค้างจำนวน 4.36 พันล้านบาท ตามประมาณการพื้นฐานของทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานรวมประมาณ 5.50 พันล้านบาทในระหว่างปี 2562-2564 ดังนั้น บริษัทจึงน่าจะสามารถชำระคืนหนี้สินทางการเงินทั้งหมดได้ภายในสิ้นปี 2564 โดยที่อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทจะลดลงเป็น 0% ในปี 2564 จาก 42.7% ในปี 2561 อนึ่ง บริษัทไม่มีแผนการลงทุนที่สำคัญในอนาคตโดยจะมีแต่เพียงการตั้งงบลงทุนตามปกติสำหรับช่วง 3 ปีข้างหน้าที่จำนวน 600 ล้านบาทซึ่งจะใช้เงินทุนจากกระแสเงินสดภายในเท่านั้น

 

มีสภาพคล่องเพียงพอ

       ทริสเรทติ้ง ประเมินว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องที่เพียงพอในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดย ณ เดือนมิถุนายน 2562 บริษัทมีแหล่งเงินทุนซึ่งประกอบด้วยเงินสดในมือจำนวน 587 ล้านบาทและเงินลงทุนอีกจำนวน 628 ล้านบาท ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานที่ประมาณ 1.70 พันล้านบาทในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เมื่อรวมสภาพคล่องทั้งหมดของบริษัทแล้วคาดว่าจะมีเพียงพอสำหรับการชำระคืนหนี้และการลงทุนของบริษัทในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ทั้งนี้ ภาระหนี้ของบริษัทที่จะครบกำหนดชำระในช่วง 12 เดือนข้างหน้าประกอบด้วยหุ้นกู้จำนวน 1.10 พันล้านบาทและตั๋วสัญญาใช้เงินจำนวน 1.62 พันล้านบาท ในการนี้ บริษัทมีแผนจะออกตั๋วสัญญาใช้เงินชุดใหม่เพื่อทดแทนตั๋วสัญญาใช้เงินที่จะครบกำหนดชำระโดยจะมีการขยายเวลาชำระหนี้ออกไปเป็นปี 2563 ในขณะเดียวกัน บริษัทก็มีงบลงทุนอีกจำนวน 310 ล้านบาทในปี 2562 ทั้งนี้ ผู้บริหารของบริษัทจะจ่ายเงินปันผลหลังจากที่บริษัทชำระหนี้ที่มีทั้งหมดแล้ว

       ทริสเรทติ้ง เชื่อว่าบริษัทจะสามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามเงื่อนไขของหุ้นกู้ได้ในช่วงเวลา 12-18 เดือนข้างหน้า โดยบริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ณ เดือนมิถุนายน 2562 อยู่ที่ 0.8 เท่าซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าเงื่อนไขของหุ้นกู้ที่กำหนดไว้ที่ 2 เท่า

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

 

ทริสเรทติ้ง มีสมมติฐานสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในระหว่างปี 2562-2564 ดังต่อไปนี้

• รายได้ของบริษัทจะลดลงประมาณ 5% ในปี 2562 และหลังจากนั้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 6% ในปี 2563 และ 2% ในปี 2564

• อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานของบริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 75%-80%

• งบประมาณการลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 600 ล้านบาทในช่วงประมาณการ 3 ปี

• อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนที่ปรับปรุงแล้วของบริษัทจะลดลงเป็น 0% ในปี 2564

 

แนวโน้มอันดับเครดิต

      แนวโน้มอันดับเครดิต 'Stable' หรือ 'คงที่' สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของบริษัทที่มั่นคงและคาดการณ์ได้ โดยอันดับเครดิตยังสะท้อนถึงภาระผูกพันของผู้บริหารที่จะชำระคืนหนี้ทั้งหมดให้ได้ภายในปี 2564 ในสถานการณ์ที่ศาลปกครองสูงสุดยังไม่มีคำพิพากษาเพื่อตัดสินความถูกต้องทางกฎหมายในการแก้ไขสัญญาสัมปทานครั้งหลังสุดของบริษัท

 

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

    อันดับเครดิตของบริษัทอาจปรับเพิ่มขึ้นได้หากคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดตัดสินว่าการแก้ไขสัญญาสัมปทานครั้งหลังสุดมีความถูกต้องทางกฎหมาย ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตอาจปรับลดลงหากผลการดำเนินงานของบริษัทถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือบริษัทมีการจ่ายเงินปันผลเป็นจำนวนมากจนกระทบต่อสถานะสภาพคล่อง

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- วิธีการจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 26 กรกฎาคม 2562

- อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญและการปรับปรุงตัวเลขทางการเงิน, 5 กันยายน 2561

บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (DMT)

 

อันดับเครดิตองค์กร: BBB+

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

DMT19DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,100 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2562 BBB+

DMT20NA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 BBB+

DMT20DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,140 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2563 BBB+

แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com

        ติดต่อ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

        บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2562 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้

        ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

Click Donate Support Web

ais 790x90

GC 950x120

sme 720x90

banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!