หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
FSS
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
 
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings and Laggard Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index แกว่งตัว Sideways ตามคาดโดยกรอบการเคลื่อนไหวค่อนข้างแคบ เนื่องจากรอดูผลประกอบการ 1Q19 ของกลุ่มธนาคารที่เริ่มประกาศเป็นวันแรก แรงซื้อยังคงมาจากสถาบันในประเทศราว 1.5 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังขายสุทธิอีก 1.1 พันลบ. (และพลิกมา Short ใน Index Futures กว่า 1.2 หมื่นสัญญา)
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways โดยกลุ่มธนาคารที่ประกาศกำไร 1Q19 ออกมาแล้วโดยรวมอยู่ในทิศทางตามคาดและต่ำกว่าคาดบ้างในบางธนาคาร แต่ภาพรวมยังถือว่าใกล้เคียงกรอบคาดการณ์ของตลาด ขณะที่ปัจจัยหนุนคือตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน ม๊.ค. ของสหรัฐฯที่แข็งแกร่งและสูงสุดในรอบกว่าปีครึ่ง โฟกัสของตลาดในระยะนี้คาดว่ายังอยู่ที่การประกาศผลประกอบการ จึงยังเน้นให้เลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีผลประกอบการ 1Q19 แข็งแกร่งรวมถึงยัง Laggard ตลาดหลังล่าสุด SET ปรับตัวขึ้นกว่า 3.5% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดงบ 1Q19 แข็งแกร่งและยัง Laggard //รอจังหวะขายทำกำไรหลังสะสมไปแล้วบริเวณ 1,630+- 
หุ้นเด่นเดือน เม.ย. : BDMS, EA, GLOBAL, KTC, STEC
 
หุ้นเด่นวันนี้: RS
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 21.5 บาท (รวมประโยชน์จากการเยียวยาแล้ว)
- แนวโน้มกำไร 1Q19 จะดีสุดหากเทียบกับกลุ่มทีวีดิตอลและคาดว่าจะเติบโต Y-Y แรงขับเคลื่อนมาจากยอดขายของธุรกิจ MPC ที่คาดทำ new high เพราะมียอดขายที่เลื่อนรับรู้มาจากการทำ New Year Grand sales ในช่วงปลายปีราว 50 ล้านบาทและยอดขายสินค้าในช่องไทยรัฐทีวี 1 เดือน (เริ่มต้น มี.ค.) 
- ปัจจุบันมี PE 30x แม้จะใกล้เคียงกลุ่มค้าปลีก แต่การเติบโตของกำไรปีนี้ (42%) สูงกว่ากลุ่ม (15%) มาก
 
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$36ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$143ล้าน ขณะที่ไหลออกจากเกาหลีใต้ US$182ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$34ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคจากแนวโน้มการเจรจาทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่น่าจะใกล้ข้อสรุป
 
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+) KTC กำไรดีกว่าเราและตลาดคาดมาก +29% Q-Q, +32% Y-Y เป็น 1.59 พันลบ. เพราะสำรองน้อยกว่าคาดและหนี้สูญรับคืนสูงกว่าคาด เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 3% เป็น 6.3 พันลบ. +23% Y-Y ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 44 บาท แนะซื้อ
(0) กำไรสุทธิของ 6 แบงก์ที่รายงานแล้ว 3.35 หมื่นลบ. +21% Q-Q, -10% Y-Y ต่ำกว่าคาด 7% จากสำรอง Employee benefit หากไม่รวมรายการดังกล่าว จะมีกำไรปกติ 3.55 หมื่นลบ +28% Q-Q, -4% Y-Y ตามคาด ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยและคุณภาพหนี้ยังเป็นปกติ แต่รายได้ค่าธรรมเนียมยังลด ยังให้ KBANK และ BBL เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม 
(0) BBL กำไรใกล้เคียงเราและตลาดคาด +11% Q-Q, flat Y-Y เป็น 9.03 พันลบ. สินเชื่อ -2.6% YTD ตามฤดูกาล NPL ทรงตัวที่ 3.5% แนวโน้มสินเชื่อ 2Q19 น่าจะเริ่มฟื้นและกำไรน่าจะขยับขึ้นได้ ยังคงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 245 บาท
(-) TMB กำไรสุทธิต่ำกว่าคาด -7% Q-Q, -31% Y-Y เหลือ 1.58 พันลบ.เพราะรายได้ธุรกิจ Bancasurance และกองทุนรวมลดลง และรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่ำกว่าคาด และมีบันทึก Employee benefit 500 ลบ. ราคาหุ้นถูกกดดันจากการเพิ่มทุนเพื่อรวมกับ TBANK และราคาหุ้นเพิ่มทุนต่ำกว่าตลาด แนะนำ switch เป็น TCAP 
(0) TISCO กำไรใกล้เคียงคาด แต่น้อยกว่าตลาดคาด 7% ทรงตัว Q-Q, -2% Y-Y เป็น 1.73 พันลบ. มี Employee benefit 200 ลบ. แต่ Negative surprise คือ NPL เพิ่มเป็น 3.02% จาก 2.86% ใน 4Q18 เราลดคำแนะนำเป็นถือ จากเดิมซื้อ เพราะราคาเต็มมูลค่าที่ 92 บาท แต่ Dividend yield 7.6% (XD 29 เม.ย. @7 บ.) จะช่วยจำกัด downside ของหุ้น 
(+) SISB ผู้ถือหุ้นอนุมัติให้ล้างขาดทุนสะสมเพื่อเปิดทางจ่ายเงินปันผล เราคาดเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 0.07 บาท/หุ้นในปี 2019 (Yield ~0.9%) ส่วนกำไรสุทธิ 1Q19 คาด +30% Q-Q, +83% Y-Y เป็น 42-44 ลบ. จากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ต้นปีกว่า 140 คน และเป็นไตรมาสแรกที่ไม่มีภาระดอกเบี้ยจ่าย คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.84 บาท
 
(+) ตลาดดาวโจนส์ปรับขึ้น 110 จุด ปิดที่ 26,559.54 จุด ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้น จากสัญญานบ่งชี้ความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีน หุ้นกลุ่มค้สปลีกดีดตัวขึ้น จากยอดค้าปลีกพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้น จากแรงซื้อคืนก่อนวันหยุดยาวในเทศกาลอีสเตอร์ ประกอบกับปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่ออกมาแข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน
(+) ตลาดเอเชียภาพรวมปรับขึ้นจากญี่ปุ่น และเกาหลี ขณะที่ตลาดเอเชียแปซิฟิกอื่น อาทิ ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และอินโดนีเซียปิดทำการเนื่องในวันหยุด Good Friday
(0) ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.80 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลงเล็กน้อย 9 เซ็นต์ อยู่ที่ 63.67 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ยังได้แรงหนุนจากการลดลงของสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐ การปรับลดกำลังผลิตของกลุ่มโอเปค 
(-) ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 80 เซนต์ หรือ 0.06% ที่ 1,276.00 ดอลลาร์/ออนซ์ จากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
 
SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 751.68 ตัน /-1.17 ตัน
 
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19 เม.ย. - ไทย: งบฯ BAY, KTB, KKP
22 เม.ย. - ไทย: ดุลการค้า (เม.ย.)
23 เม.ย. - ไทย: กทท.ประกาศผลโครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3
25 เม.ย. - ไทย: งบฯ DTAC
- ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
- เกาหลีใต้: 1Q19 GDP
- สหรัฐ: Durable good orders (มี.ค.)
26 เม.ย. - สหรัฐ: 1Q19 GDP (ตลาดคาด 1.8% ลดจาก 2.2% ใน 4Q18)
29 เม.ย. - ไทย: งบฯ SCC, ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เม.ย.)
 
Contact person : Jitra Amornthum Register : 014530
Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research
โดย บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ประจำวันที่ 19 เม.ย. 2562
 
 

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!