'ปั่นไปไม่ทิ้งกัน ปี 2'ก้าวสู่วันที่ 7 'โป่งน้ำร้อน-สระแก้ว'ระยะทาง 129 กิโลเมตร ผ่านมาครึ่งทางแล้ว-คณะนักปั่น70 ชีวิตยังสู้ไม่ถอย พร้อมลุยเส้นทางโหด สานฝัน 'ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนเชียงดาว-นครชัยศรี'

    'ปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2' วันที่ 7 เริ่มปล่อยตัวจากที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เวลา 08.00 น. โดยมี นายบุญช่วย น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายพีรณัฐ รัตนวรโอภาส นายอำเภอโป่งน้ำร้อน นายพัฒนคม ภู่ประเสริฐ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประจำจังหวัดจันทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 และที่ 4 พร้อมด้วยตัวแทนส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมพิธีปล่อยขบวนนักปั่นผู้พิการทางสายตาและนักปั่นจิตอาสา จำนวนกว่า 70 ชีวิต เพื่อเดินทางต่อไปยังจังหวัดสระแก้ว ภายใต้ภารกิจระดมทุนสานฝัน’ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน’ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

      พิธีปล่อยตัวในช่วงเช้าเป็นไปอย่างคึกคัก มีการตั้งซุ้มลมปล่อยแถวขบวนนักปั่นจักรยาน ซุ้มจำหน่ายเสื้อที่ระลึกของโครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน ปี 2 ซึ่งเสื้อยืดที่ระลึก ราคาจำหน่ายตัวละ 500 บาท และเสื้อปั่นจักรยาน ราคาจำหน่ายตัวละ 1,200 บาท รวมทั้งยังตั้งโต๊ะอาหารว่าง เช่น ขนมปังบิสกิต ปาท่องโก๋ น้ำผลไม้ เครื่องดื่มชูกำลังไว้ดูแลเหล่าบรรดานักปั่น ท่ามกลางสื่อมวลชนท้องถิ่น ชมรมนักปั่นจักรยานในอำเภอโป่งน้ำร้อน กลุ่มผู้พิการในพื้นที่ และประชาชน จำนวนกว่า 200 คน

        โดยวันนี้ คณะนักปั่นโครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน ได้รับมอบเงินบริจาคจากชาวอำเภอโป่งน้ำร้อนเป็นจำนวนเงินกว่า 25,000 บาท (สองหมื่นห้าพันบาท) โดยมี นายพีรณัฐ รัตนวรโอภาส นายอำเภอโป่งน้ำร้อน เป็นตัวแทนส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าว เพื่อสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะเป็นต้นแบบศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอย่างครบวงจรในภูมิภาคอาเซียน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างอาชีพที่ยั่งยืนให้กับผู้พิการ

      เส้นทางการปั่นจักรยานของวันที่เจ็ด เริ่มเคลื่อนขบวนจากที่ว่าการอำเภอโป่งน้ำร้อน มีนายบุญช่วย น้อยสันเทียะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ให้เกียรติปั่นนำขบวนจักรยานมาส่งจนถึงเขตรอยต่อจังหวัดสระแก้วด้วยตัวเอง โดยมุ่งหน้าสู่จุดแรกที่ปั๊มน้ำมันบางจาก อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ซึ่งที่นี่ได้มีนักธุรกิจท้องถิ่น ตัวแทนห้างร้านต่างๆในพื้นที่อำเภอสอยดาว เดินทางมามอบเงินสมทบทุนเพิ่มอีก เป็นจำนวนเงินกว่า 50,000 บาท จากนั้นคณะปั่นได้ไปต่อยังจุดที่สองคือ โรงเรียนบ้านตาเรือง อำเภอสอยดาว เพื่อแวะพักหลบแดด ดื่มน้ำ ท่ามกลางเด็กนักเรียนตัวน้อยมายืนรอต้อนรับ พร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก่อนแวะรับประทานอาหารกลางวันที่โรงเรียนบ้านเขาแหลม อำเภอวังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว เพื่อมุ่งหน้าสู่จุดที่สี่ ปั๊มน้ำมันปตท.วังน้ำเย็น และจุดที่ห้า โรงเรียนเขาฉกรรจ์วิทยาคม อำเภอเขาฉกรรจ์ ก่อนจะจบปลายทางสุดท้ายของวันนี้ที่ศาลหลักเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสระแก้ว โดยคาดว่าจะถึงจุดหมายในเวลา 16.00 น.

      สำหรับ บรรยากาศการปั่นวันนี้เป็นไปด้วยความยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากเส้นทางอำเภอโป่งน้ำร้อนและอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี เป็นถนนทางขึ้นภูเขาที่แคบและมีรถวิ่งสวนเลนตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีอุปสรรคใหญ่หลวงคือ เนินลาดชันระยะทางยาวหลายช่วง ทางโค้งเยอะ บวกกับอากาศร้อนอบอ้าว ส่งผลให้นักปั่นจักรยานตาบอดและนักปั่นจิตอาสาต้องพบกับความยากลำบากแสนสาหัส หลายคนออกอาการเข่าอ่อน หมดแรง สีหน้าเหน็ดเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด บางคนถึงกับต้องแวะจอดข้างทางเพื่อหยุดพัก แต่อย่างไรก็ตามด้วยความสามัคคีอันตรงกับสโลแกนที่ว่า "ปั่นไปไม่ทิ้งกัน" คณะนักปั่นจิตจาสาและนักปั่นตาบอดจึงช่วยกันดันรถจนสามารถปั่นข้ามเนินเขาลูกแล้วลูกเล่าได้สำเร็จ

      ขณะเดียวกัน ทีมนักปั่นพุ่มจำนวน 20 คัน นำโดย ศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ยังคงตระเวนออกไประดมเงินบริจาคตามจุดต่างๆในจังหวัดจันทบุรี เช่น ตลาดโป่งน้ำร้อน ตลาดสอยดาว และจุดพักท่องเที่ยวตามรายทาง เพื่อทำการรณรงค์สิทธิคนพิการและประชาสัมพันธ์โครงการให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ โดยยอดเงินบริจาคจากช่องทางต่างๆ ที่ได้รับทั้งสิ้นในขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 4.3 ล้านบาท (สี่ล้านสามแสนบาท) ซึ่งวันนี้ถือเป็นผ่านมาครึ่งทางแล้ว แต่ยอดบริจาคยังคงน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้ ซึ่งเป้าหมายของโครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน ปี 2 อยู่ที่ 118 ล้านบาท

       สำหรับ เส้นทางปั่นจักรยานในวันพรุ่งนี้ซึ่งเป็นวันที่ 8 (วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562) จะเริ่มต้นที่ศาลหลักเมืองจังหวัดสระแก้ว โดยมีจุดหมายที่จังหวัดปราจีนบุรี ระยะทางทั้งสิ้น 113 กิโลเมตร

     โครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2 ถือเป็นครั้งที่สองของประเทศไทย ที่ผู้พิการตาบอดจำนวน 20 ชีวิต ร่วมกับนักปั่นจิตอาสาปั่นนำอีก 20 ชีวิต จะรวมพลังสามัคคีปั่นจักรยานเป็นระยะทางรวมกว่า 1,500 กิโลเมตร 14 วัน 15 จังหวัด ระหว่างวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ถึงวันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 โดยเริ่มต้นจากกรุงเทพมหานคร ผ่านจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสุพรรณบุรี และจังหวัดนครปฐม เพื่อหาทุนสนับสนุนการก่อสร้าง ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ภายใต้ความมุ่งหวังที่จะสร้างงานสร้างอาชีพให้ผู้พิการอย่างยั่งยืน และยังเป็นการสานต่องานที่’พ่อ’ทำ ด้วยการเปลี่ยน ‘ภาระ’ให้กลายเป็นอีกหนึ่ง ‘พลัง’ ในการพัฒนาและสร้างสรรค์สังคม.

Click Donate Support Web