หมวดหมู่: มติ ครม.

GOV5 copy copy


ร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิ ตามมาตรา 7 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบดังนี้
         1. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิ ตามมาตรา 7 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
         2. ให้ ทส. รับความเห็นของ กษ. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
         3. ให้ กษ. รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย


         สาระสำคัญของร่างประกาศ
         กำหนดให้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินที่มีหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01 ส.ป.ก. 4-01 ก ส.ป.ก. 4-01 ข ส.ป.ก. 4-01 ค) และหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินที่อยู่อาศัย (ส.ป.ก. 4-01 ช) เป็นที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิตามมาตรา 7 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 และให้ไม้ที่ปลูกในที่ดินดังกล่าวให้ถือว่าไม่เป็นไม้หวงห้าม

          ทส. เสนอว่า
         1. โดยที่มาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 บัญญัติให้ไม้ชนิดใดที่ขึ้นในป่าจะให้เป็นไม้หวงห้ามประเภทใด ให้กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา สำหรับไม้ทุกชนิดที่ขึ้นในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน ไม่เป็นไม้หวงห้าม หรือไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ให้ถือว่าไม่เป็นไม้หวงห้าม ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามบทบัญญัติดังกล่าว จึงสมควรกำหนดให้ที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์สามารถปลูกไม้ขึ้นในที่ดินดังกล่าวได้ โดยไม่ถือว่าเป็นไม้หวงห้าม
         2. กรมป่าไม้ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมชลประทาน กรมธนารักษ์ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่ประชุมมีมติเห็นควรประกาศเฉพาะที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินที่มีหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01 ส.ป.ก.4-01 ก ส.ป.ก. 4-01 ข ส.ป.ก. 4-01 ค) และหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินที่อยู่อาศัย (ส.ป.ก.4-01 ช) ไปก่อน เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการเพิกถอนการเป็นป่าสงวนแห่งชาติแล้ว
         3. ทส. พิจารณาแล้วเห็นว่า โดยที่กรมป่าไม้ได้มอบพื้นที่ป่าเสื่อมสภาพที่เหมาะสมต่อการเกษตร และพื้นที่ป่าเพื่อเศรษฐกิจให้ ส.ป.ก. ดำเนินการปฏิรูปที่ดินตามนโยบายรัฐบาล เมื่อปี พ.ศ. 2536 เนื้อที่ประมาณ 44.28 ล้านไร่ โดยกำหนดเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ให้ราษฎรปลูกไม้ผล หรือไม้ยืนต้นอย่างน้อยร้อยละ 20 ของเนื้อที่ที่ได้รับ เกษตรกรที่ได้รับหนังสืออนุญาตให้ทำประโยชน์ในเขต ส.ป.ก. บางรายได้ดำเนินการปลูกสร้างสวนป่า และได้ขึ้นทะเบียนสวนป่าตามพระราชบัญญัติสวนป่า พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมแล้ว เนื้อที่ประมาณ 205,000 ไร่ ดังนั้น จึงมีที่ดินในเขต ส.ป.ก. อีกจำนวนมากที่ประสงค์จะทำไม้หวงห้ามที่ปลูกขึ้นตามเงื่อนไขการใช้ประโยชน์ที่ดินดังกล่าว ต้องขออนุญาตทำไม้ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 การประกาศที่ดินใน ส.ป.ก. ให้ไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินตามข้อ 2. ไม่เป็นไม้หวงห้าม จึงเป็นการช่วยให้เกษตรกรสามารถทำไม้ที่ปลูกขึ้นในพื้นที่เขต ส.ป.ก. ได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น อีกทั้งจะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรที่ได้รับหนังสืออนุญาตให้ทำประโยชน์ในเขต ส.ป.ก. ให้ความร่วมมือตามนโยบายรัฐบาลในการเพิ่มพื้นที่ป่าเศรษฐกิจและพื้นที่สีเขียวอย่างเป็นรูปธรรม
          จึงได้เสนอร่างประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิ ตามมาตรา 7 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 มาเพื่อดำเนินการ

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) 8 กรกฎาคม 2563
สำนักโฆษก   สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โทร. 0 2288-4396


AO7222

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!